วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เมืองสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศกัมพูชา

 พนมเปญ
      เป็นเมืองหลวงของประเทศกัมพูชา ครั้งหนึ่งเคยได้ชื่อว่า ไข่มุกแห่งเอเชีย ทำให้เป็นเมืองที่เป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยวทั้งจากในประเทศและนอกประเทศ กรุงพนมเปญยังเป็นศูนย์การค้า การเมือง และวัฒนธรรมของกัมพูชามีอุตสาหกรรมหลักเป็น อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องนุ่งห่ม สิ่งทอ และรองเท้า และยังเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าไปทั่วประเทศอีกด้วย


สีหนุวิลล์
      สีหนุวิลล์ หรือ กำปงโสม เป็นเมืองชายทะเลยอดนิยมมากที่สุดของประเทศกัมพูชา ห่างจากกรุงพนมเปญไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 246 กิโลเมตร เนื่องจากมีพื้นที่ติดกับทะเลทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญของประเทศกัมพูชา เป็นแหล่งหาอาหารทะเล สถานที่ท่องเที่ยวทางทะเล และยังมีแหล่งขุดเจาะก๊าซ และน้ำมัน


กำปงจาม
      เป็นจังหวัดที่อยู่ทางตะวันออกของประเทศกัมพูชา เป็นจังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศ โดยมีประชากรประมาณ 1,600,000 คน เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้เหมาะแก่การทำการเกษตร ประชากรส่วนใหญ่จึงประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำให้กำปงจามกลายเป็นเมืองที่สำคัญทางเศรษฐกิจอีกเมืองนึง เนื่องจากเป็นแหล่งผลิตยางพารา เงาะ มังคุด ทุเรียน และผลไม้อื่นๆ อีกหลายชนิด รวมทั้งพืชไร่ต่างๆ เช่น ข้าวโพด ถั่ว งา เป็นต้น


ที่มา : http://asean.skru.ac.th/

ทรัพยากรธรรมชาติประเทศกัมพูชา



          กัมพูชามีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณมีสินแรชนิดตาง ๆ อยูทั่วไป เชน ทอง ทองแดง แรเหล็กแมงกานิส ถานหิน วุลแฟรม ฟอสฟอรัส พลอย เงิน ดีบุกตะกั่ว สังกะสีหินออน ฯลฯแร เหล็กพบมากตามเทือกเขาพนมดงรักโดยเฉพาะอยางยิ่งจังหวัดพระวิหารจังหวัดสตรึงเตรงจังหวัด อุดรมีชัยและจังหวัดพระตะบองแมงกานิสมีมากที่จังหวัดพระวิหารถานหินสวนมากอยูที่จังหวัด สตรึงเตรง พลอย (ทับทิมและไพลิน) สวนมากอยูที่จังหวัดพระตะบอง พระวิหาร เกาะกง รัตนคีรี และกรุงไพลิน ทองคนพบที่บอซ็อมตร็อบ จังหวัเสียมเรียบ พนมกําโบรจังหวัดอุดรมีชัย พนมแดก จังหวัดพระวิหาร บอกไซทคนพบในจังหวัดพระตะบอง และมณฑลคีรีแรเงิน มีที่บอซ็อมตร็อบ และพนมกําโบรจังหวัดอุดรมีชัยและสําโรง จังหวัดกัมปงสะปอ ทั้งนี้สินแรตาง ๆ ของกัมพูชามี คอนขางอุดมสมบูรณอาณาบริเวณที่มีสินแรหลากหลายชนิดกระจุกตัวอยูคือ ภาคเหนือของ จังหวัดสตึงเตรงและเขาพระวิหารกรุงไพลิน จังหวัดพระตะบองและจังหวัดโพธิสัต มีพลอย เงิน และทองกระจายอยูเปนหยอม ๆ โดยเฉพาะที่กรุงไพลินมีพลอยไพลินกระจุกอยูหนาแนน นอกจากนี้กัมพูชายังมีน้ํามันดิบและกาซธรรมชาติโดยกัมพูชามีแหลงน้ํามันดิบและกาซธรรมชาติ หลายแหงโดยเฉพาะบริเวณนอกชายฝงดานตะวันตกเฉียงใตของประเทศ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกัมพูชา ไดเปดประมูลใหมีการขุดเจาะน้ํามันและกาซธรรมชาติทั้งบนชายฝงและนอกชายฝงแลวหลายแหง และบางแหลงอยูระหวางการสํารวจอีกทั้งยัง คาดวาจะพบแหลงน้ํามันและกาซธรรมชาติจํานวน หนึ่งบริเวณโตนเลสาบ สวนทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณและยังไมไดนํามาใชประโยชนอยางเต็มที่อาทิปา ไม(ครอบคลุมพื้นที่ราวรอยละ 35-62 ของพื้นที่ทั้งประเทศ) บริเวณที่ปาไมหนาแนน คือ เทือกเขา บรรทัดทางตอนใตและตะวันตกเฉียงใตของประเทศ สวนใหญเปนไมประดู ไมตะเคียน ไมชิงชัน ไมมะคา ไมพะยูน ไมเต็งไมแดงและไมยาง ทั้งนี้กัมพูชามีแนวชายฝงทะเลอาวไทยเปนระยะทาง 443 กิโลเมตรจึงเปนแหลงที่มีสัตวน้ํา ชุกชุม นอกจากนี้บริเวณโตนเลสาบ (Tone Sap) หรือทะเลสาบเขมร เปนทะเลสาบน้ําจืดขนาดใหญ ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใตตั้งอยูบริเวณตอนกลางคอนไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของกัมพูชา ซึ่งมีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณจนกลายเปนรากฐานสําคัญทางเศรษฐกิจและสังคมของ กัมพูชาและเปนเสนทางคมนาคมทางน้ําที่สําคัญซึ่งเชื่อมโยงระหวางกรุงพนมเปญไปยังเมืองเสียม เรียบ จังหวัด พระตะบอง จังหวัดโพธิสัตวจังหวัดกําปงชนังและจังหวัดกําปงธม ซึ่งเปนจังหวัด ที่ตั้งโดยรอบ โตนเลสาบ ประกอบกับความโดดเดนของโตนเลสาบในดานความหลากหลายทาง ชีวภาพและระบบนิเวศนที่อุดมสมบูรณอีกทั้งยังมีพันธุไมและสัตวบางชนิดที่พบเห็นไดเฉพาะ บริเวณโตนเลสาบเทานั้น


ที่มา : http://www.boi.go.th/

วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ศิลปะและวัฒนธรรมประเทศกัมพูชา


     อำเภอขุขันธ์เดิมเป็นที่ตั้งของบริเวณเมืองขุขันธ์ ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่อายุกว่า 200 ปี เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของคนไทยหลายเชื้อสาย หลายภาษา เช่น เขมร ลาว ส่วย เยอ จีน เป็นต้น มีจารีตประเพณีและวัฒนธรรมที่งดงามของท้องถิ่นอยู่เป็นจานวนมาก และหนึ่งในจำนวนนั้น ก็คือประเพณีแซนโดนตา ซึ่งเป็นประเพณีเซ่นไหว้บรรพบุรุษของคนไทยเชื้อสายเขมร โดยคนไทยกลุ่มดังกล่าวได้ยึดถือปฏิบัติกันมาแต่ดั้งเดิม เนื่องจากอำเภอขุขันธ์มีคนไทยเชื้อสายเขมร อยู่เป็นจำนวนมาก บรรดาลูกหลานที่ไปทางานต่างถิ่นจะกลับมาร่วมพิธีเซ่นไหว้ที่บ้านเป็นประจำทุกปี แต่การแซนโดนตาได้กระทำกันในครอบครัวบางครอบครัวที่เป็นคนรุ่นใหม่เริ่มขาดความรู้ความเข้าใจในพิธีกรรมดังกล่าวชาวอำเภอขุขันธ์จึงได้จัดงานประเพณีแซนโดนตาขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 เป็นต้นมา เพื่อเป็นการสืบสาน พัฒนาและส่งเสริมวัฒนธรรม ประเพณีในท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

     ในประเทศกัมพูชา มีการทำบุญประเพณีต่างๆ เหมือนกับเมืองไทยเช่นกัน เช่น วันสงกรานต์ เริ่มจากวันที่ 13 เดือนเมษายน ถึง 15 เมษายน ประเพณีวันลอยกระทง ช่วงสิ้นเดือนตุลาคม และอีกมากมาย วิธีบุญต่างๆ จัดขึ้นทุก ๆ ปีเพื่อให้ลูกหลานได้รู้จักประเพณี วัฒนธรรมอันดีงามของชาวกัมพูชา กัมพูชาเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน วัฒนธรรมและประเพณีจึงเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ ความเชื่อ วิถีชีวิตของคนในประเทศ เช่น ระบำอัปสรา (Apsara Dance)
เป็นการแสดงนาฏศิลป์ที่โดดเด่นของกัมพูชา ซึ่งถอดแบบการแต่งกาย และท่าร่ายรำมาจากภาพจาหลักรูปนางอัปสรที่ปราสาทนครวัด


เทศกาลน้ำ หรือ "บอน อม ตุก" (Bon Om Tuk)
      เทศกาลประจำปีที่ยิ่งใหญ่ของกัมพูชา จัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน เพื่อเป็นการแสดงความสำนึกในพระคุณ ของแม่น้ำที่นาความอุดมสมบูรณ์มาให้ โดยจะมีการแข่งเรือยาว แสดงพลุดอกไม้ไฟ และการแสดงขบวน เรือประดับไฟ

ที่มา: http://asean-trad.blogspot.com/